Text
Content
ลิสซิ่งคืออะไรกับข้อมูลที่คนอยากกู้ต้องทราบ
ลิสซิ่งคืออะไรกับข้อมูลที่คนอยากกู้ต้องทราบ
ความหลากหลายของสินค้าทางการเงินในปัจจุบันช่วยทำให้การวางแผนการเงิน สภาพคล่อง และสุขภาพทางการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากขึ้น ซึ่งสำหรับลิสซิ่งก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าทางการเงินที่น่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คนเช่นเดียวกัน ไฟแนนซ์ลิสซิ่งมีรายละเอียดที่น่าสนใจอย่างไร สินเชื่อลิสซิ่งต้องใช้งานแบบไหน วันนี้เรามาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการวางแผนไปพร้อมกัน
อะไรคือสินเชื่อแบบลิสซิ่ง
ถ้าพูดถึงการเช่าซื้อนั้นสุดท้ายเมื่อจ่ายเงินครบกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์จะตกมาเป็นของคุณ แต่สำหรับลิสซิ่งนั้นมีความแตกต่างกัน ซึ่งถ้าถามว่าลิสซิ่งกับไฟแนนซ์ต่างกันอย่างไร คำตอบคือ ลิสซิ่งนั้นเป็นเพียงการเช่าเพื่อใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์เหล่านั้น โดยประโยชน์ต่าง ๆ จะทำได้ตามสัญญาที่ระบุร่วมกันไว้ ซึ่งมีการจ่ายค่างวด ดอกเบี้ยต่าง ๆ ตามที่กำหนด แต่เมื่อครบสัญญาหรือจ่ายเงินครบตามจำนวนแล้วทางผู้ขอกู้นั้นจะสามารถตัดสินใจต่อได้ว่าจะซื้อมาเป็นของตนเอง จะเช่าต่อ หรือเลือกที่จะคืนสินทรัพย์ให้กับผู้ให้บริการ
การเลือกใช้ลิสซิ่งมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร
เมื่อเป็นความแตกต่างทางด้านรายละเอียด ถ้าอย่างนั้นลิสซิ่งมีประโยชน์หรือสิ่งที่ควรระวังอย่างไรบ้าง เรามาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบว่าการใช้งานบริษัทลิสซิ่งมีความเหมาะสม หรือสามารถตอบโจทย์คุณได้มากน้อยเพียงใด ถ้าเป็นสินค้าทางการเงินที่ใช่จะได้สามารถวางแผนต่อได้
- ข้อดีของลิสซิ่ง
– ช่วยประหยัดค่าบำรุงรักษา เพราะสินทรัพย์ Leasing นั้นจะได้รับการดูแล บริการซ่อมบำรุงตลอดอายุการใช้งานโดยที่คุณไม่ต้องรับภาระนี้
– เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการต่อสัญญา หรือเปลี่ยนไปเช่าสินทรัพย์ใหม่ หรือซื้อสินทรัพย์เดิมในราคามาตรฐาน
– ไม่ต้องรับภาระค่าเสื่อมสภาพ เพราะสินทรัพย์ทุกอย่างเมื่อใช้งานไปก็มีการเสื่อมสภาพ ซึ่งคุณสามารถตัดความเสี่ยงเรื่องนี้ได้
– ค่าใช้จ่ายคงที่ เพราะคุณจะจ่ายค่าเช่ารายเดือนตามที่กำหนดเท่านั้น
– มีประโยชน์ในด้านภาษี เพราะค่าเช่าสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ยิ่งถ้าเป็นบริษัทหรือกิจการที่มีกำไรเยอะ การมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเช่าสินทรัพย์จากลิสซิ่งนั้นยิ่งช่วยให้คุณจ่ายภาษีน้อยลงได้
- ข้อเสียของลิสซิ่ง
– คุณจะจ่ายเงินโดยที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์เหล่านั้น
– มีสิทธิ์ในแง่ของการใช้งาน แต่ถ้าต้องการนำสินทรัพย์ไปขอสินเชื่อเงินด่วน หรือถ้าอยากได้เงินก้อนไม่สามารถนำสินทรัพย์เหล่านี้ไปเป็นหลักประกันได้
– บุคคลธรรมดาสามารถใช้งานลิสซิ่งได้ แต่เรื่องของความคุ้มค่านั้นแนะนำให้คุณตรวจสอบความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะจะเหมาะกับลูกค้าองค์กร บริษัท หรือเหล่าผู้ประกอบการมากกว่า
เมื่อต้องการใช้ลิสซิ่งต้องทำอย่างไร
สำหรับขั้นตอนการขอลิสซิ่งนั้นไม่ว่าจะเป็นลิสซิ่งรถยนต์, ลิสซิ่งมอเตอร์ไซค์ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมขั้นตอนที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นคุณสามารถนำขั้นตอนเหล่านี้ไปใช้ในการวางแผนการใช้งานสินทรัพย์ของคุณได้
- เลือกสินทรัพย์
ไม่ว่าคุณจะต้องการขอรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ รถประเภทอื่น ๆ รวมทั้งสินทรัพย์ในด้านอื่นก็สามารถเลือกเพื่อนำมาระบุในการทำสัญญาได้
- เสนอราคา
เมื่อคุณยื่นข้อมูลไปเรียบร้อยแล้ว ทางบริษัทสินเชื่อผู้ให้เช่าจะเสนอราคา วัตถุประสงค์ ระยะสัญญาเริ่มต้น และรายละเอียดต่าง ๆ กลับมาให้กับคุณ ซึ่งถ้าข้อมูลสินเชื่อตรงตามที่วางแผน และตอบโจทย์กับความต้องการก็สามารถตกลงกันในขั้นตอนต่อไปได้
- ออกใบสั่งซื้อ
ผู้ให้เช่าจะทำการออกใบสั่งซื้อสินทรัพย์นั้นให้กับคุณโดยตรง จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของทางผู้ขายที่จะจัดส่งสินทรัพย์ให้กับผู้เช่าตามระยะวันเวลาที่กำหนด
- เริ่มเซ็นสัญญา
เมื่อได้รับสินทรัพย์เรียบร้อยแล้วจะต้องมีขั้นตอนของการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับบริษัทลิสซิ่งรถยนต์หรือสินทรัพย์อื่น ๆ จากนั้นก็เริ่มใช้งาน และเริ่มการจ่ายค่างวดตามที่ตกลงกันได้
ลิสซิ่งออกแบบมาได้ตอบโจทย์กับใครบ้าง
เรามาดูกันว่าลิสซิ่งนั้นออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน ใครบ้างที่ใช้สินค้าทางการเงินประเภทนี้แล้วได้ความคุ้มค่าอย่างเหมาะสม
- องค์กร
สินเชื่อรถยนต์อาจเป็นภาระที่หนักจนเกินไปสำหรับองค์กรที่ต้องใช้สินทรัพย์เพื่อต่อยอดธุรกิจหลากหลายประเภท ดังนั้นการเช่าเพื่อนำสินทรัพย์มาทำให้การดำเนินการต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง และลดภาระหลาย ๆ อย่างได้มากกว่า หลัก ๆ แล้วหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และบริษัทเอกชนขนาดใหญ่มักเลือกใช้ลิสซิ่ง
- ผู้ประกอบการ
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการรายเล็กหรือใหญ่การใช้งานลิสซิ่งก็สามารถช่วยให้คุณขยายกิจการในด้านอื่น ๆ ได้ง่ายมากขึ้น มีสภาพคล่อง และสุขภาพทางการเงินของกิจการที่แข็งแรงขึ้น ดังนั้นใครเน้นเรื่องการเติบโตของธุรกิจลิสซิ่งเหมาะกับคุณ
ลิสซิ่งต่างกับสินเชื่อประเภทอื่นอย่างไร
เมื่อได้สินทรัพย์อย่างรถประเภทต่าง ๆ มาใช้เหมือนกันแล้วลิสซิ่งต่างกับสินเชื่อรถอย่างไรบ้าง เรามาดูความแตกต่างให้ชัดเจนกัน
- ลิสซิ่งเป็นการเช่า
จุดที่แตกต่างชัดเจนที่สุดคือลิสซิ่งเป็นเพียงสัญญาการเช่าเท่านั้น แต่ในตอนท้ายสามารถตัดสินใจได้ว่าจะต่อสัญญา หรือจะเลือกซื้อมาเป็นของผู้เช่า สามารถนำค่าเช่าไปบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายได้จึงสามารถใช้ในการลดหย่อนภาษีได้ ยิ่งถ้าเป็นกิจการที่กำไรเยอะการมีค่าใช้จ่ายแบบนี้ช่วยในการลดภาษีได้เป็นอย่างดี สามารถเลือกสินทรัพย์ได้หลากหลายทั้งยานพาหนะและเครื่องจักรต่าง ๆ และไม่สามารถใช้ขอเงินด่วนได้
- สินเชื่อรถเป็นการเช่าซื้อ
สินเชื่อรถใหม่หรือมือสองนั้นมีเป้าหมายสุดท้ายคือการเป็นเจ้าของ สินทรัพย์เหล่านั้นถือเป็นของคุณหรือกิจการตั้งแต่เซ็นสัญญา แต่กรรมสิทธิ์ยังเป็นของสถาบันการเงิน มีเรื่องของค่าเสื่อมสภาพที่ต้องดูแล พร้อมทั้งมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย โดยคุณสามารถที่จะนำสินทรัพย์มาเปลี่ยนรถเป็นเงินตอบโจทย์คนต้องการเงินด่วนได้เป็นอย่างดี
รายละเอียดของลิสซิ่งที่คนต้องการใช้ควรทราบ
สินเชื่อแบบลิสซิ่งนั้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่กิจการและองค์กรต่าง ๆ มักเลือกใช้ลิสซิ่ง ดังนั้นสามารถนำข้อมูลประเภทเหล่านี้ไปใช้ในการวางแผนได้
- สัญญาลิสซิ่งแบบเช่าดำเนินงาน
ผู้เช่าจะต้องจ่ายเป็นค่าเช่าในทุกเดือน และกรรมสิทธิ์นั้นจะไม่ต้องเป็นของผู้เช่า
- สัญญาลิสซิ่งแบบเช่าทางการเงิน
ผู้เช่าจะสามารถบันทึกสินทรัพย์ที่เช่าเป็นทรัพย์สินของทางบริษัทได้ และนำมาคำนวณเพื่อหาราคาค่าเสื่อมสภาพ
การเตรียมคุณสมบัติให้พร้อมเพื่อลิสซิ่งต้องทำอย่างไร
เมื่อได้รู้จักกับลิสซิ่งกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณมีกิจการ ทำธุรกิจ หรือกำลังหาข้อมูลการใช้งานลิสซิ่งให้กับองค์กร เรามาดูคุณสมบัติที่ต้องมีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานสินค้าทางการเงินประเภทนี้กันดีกว่า คุณสมบัติจะต้องมีอะไรบ้าง มาดูกัน
- เป็นผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญในธุรกิจ
ถ้าคุณเป็นกิจการที่ต้องการใช้งานลิสซิ่ง ประวัติการทำงานของบริษัทคุณนั้นจะต้องไม่มีประวัติการทิ้งงาน หรือถูกเรียกร้องให้ชดเชยความเสียหาย ในกรณีนี้มักจะเป็นบริษัทก่อสร้างที่ต้องใช้รถในการทำงาน ถ้ามีประวัติการทำงานที่ดีมีแนวโน้มที่จะขอลิสซิ่งผ่านง่ายขึ้น
- เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจจดทะเบียนในรูปแบบนิติบุคคล
สำหรับผู้ที่ขอลิสซิ่งได้นั้นจะง่ายมากขึ้นถ้าจดทะเบียน พร้อมทั้งอยู่ในรูปแบบของบริษัทจำกัด (บจก.), ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.), กิจการร่วมค้า, กิจการค้าร่วม รวมทั้งบริษัทจำกัดมหาชน (บมจ.) เพราะสามารถตรวจสอบประวัติด้านต่าง ๆ ได้ง่าย
- เป็นผู้ประกอบการที่ทำงานให้กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เทศบาลต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าทางหน่วยงานของรัฐนั้นมักจะมีคุณสมบัติพื้นฐานก่อนการว่าจ้างมาโดยละเอียดอยู่แล้ว ทำให้เครดิตของคุณในการยื่นขอลิสซิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ใครที่เป็นธุรกิจ กิจการ องค์กร บริษัท แนะนำเลยว่าการใช้งานลิสซิ่งกับสินทรัพย์ต่าง ๆ ของคุณนั้นถือว่ามีความ่นาสนใจ และช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้กับคุณได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับลูกค้าบุคคลนั้นหากสนใจการเช่าแบบนี้ก็สามารถปรึกษากับเจ้าของสินทรัพย์อย่างโชว์รูมรถ หรือเหล่าเต็นท์มือสองได้ เพื่อที่จะใช้งานยานพาหนะให้สะดวกกับการวางแผนค่าใช้จ่ายของคุณให้มากที่สุดนั่นเอง ซึ่งถ้าคุณยอมรับในแง่ของการไม่สามารถนำสินทรัพย์ไปขอสินเชื่ออื่น ๆ ได้ ก็ถือว่าลิสซิ่งตอบโจทย์คุณเช่นกัน