จํานองที่ดิน ธอส
อัตราดอกเบี้ย:
ไม่กำหนด
เช็คข้อมูลผลิตภัณฑ์สินเชื่อจํานองที่ดิน ธอส บริการเงินกู้สำหรับผู้ที่มีโฉนดที่ดินเป็นของตนเอง
สามารถจํานองที่ดินกับธนาคาร ธอส ได้หรือไม่ อัปเดตผลิตภัณฑ์สินเชื่อจํานองที่ดินจากธนาคาร ธอส
วงเงินให้กู้:
ไม่กำหนด
ระยะเวลาผ่อนชำระ:
ไม่กำหนด
จํานองที่ดินเงินติดล้อ
อัตราดอกเบี้ย:
สูงสุด 15% ต่อปี
จํานองที่ดินเงินติดล้อได้ง่าย ๆ ไม่ต้องใช้บุคคลในการค้ำประกันและไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือนในการกู้ยืม
ในกรณีที่มีเงินก้อนปิดหนี้สามารถปิดบัญชีก่อนครบกำหนดได้ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแอบแฝง
วงเงินให้กู้:
ไม่เกิน 200,000 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระ:
สูงสุด 60 เดือน
จำนองที่ดินธนาคารออมสิน
อัตราดอกเบี้ย:
เริ่มต้น 7.50% ต่อปี
ทำความรู้จักกับการจำนองที่ดินธนาคารออมสินที่สามารถยื่นเรื่องจำนองได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล
สินเชื่อจำนองที่ดินอัตราดอกเบี้ยต่่ำโดยมีการคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เริ่มต้นที่ 7.50% ต่อปีเท่านั้น
วงเงินให้กู้:
ไม่เกิน 50,000,000 บาท
ระยะเวลาผ่อนชำระ:
อยู่ในช่วง 1-5 ปี
จำนองที่ดิน ธกส
อัตราดอกเบี้ย:
สูงสุด 4% ต่อปี
สมัครสินเชื่อจำนองที่ดินกับธนาคาร ธกส รับวงเงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและเพื่อเป็นค่าลงทุนได้ง่าย ๆ
ในกรณีที่ยื่นกู้เพื่อนำวงเงินไปลงทุนและมีการส่งชำระตามที่มาของรายได้สามารถผ่อนชำระสูงสุด 10 ปี
วงเงินให้กู้:
ไม่เกิน 95% ของราคาที่ดิน
ระยะเวลาผ่อนชำระ:
อยู่ในช่วง 1-10 ปี

Text

Content


จำนองที่ดิน ส่องรายละเอียด เลือกใช้บริการที่ไหนดีถึงได้รับวงเงินคุ้มค่า

จำนองที่ดิน ส่องรายละเอียด เลือกใช้บริการที่ไหนดีถึงได้รับวงเงินคุ้มค่า

ความเดือดร้อนที่ได้รับจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้หลายท่านยังประสบปัญหาขาดรายได้ สภาพคล่องมีไม่พอรายจ่าย อย่างไรก็ตาม ท่านใดที่มีหลักทรัพย์อยู่ในมือ เช่น โฉนดที่ดิน ส่วนนี้หมดกังวลไปได้เลย เพราะท่านสามารถหาทางออกการเข้าถึงสภาพคล่องได้ด้วยการจำนองโฉนด ซึ่งจำนองที่ดินจะทำให้ท่านมีวงเงินเพื่อมาใช้จ่าย และตั้งหลักในช่วงที่ยากลำบากนี้ นอกจากนั้น การทำสัญญาจำนองที่ดินยังทำให้ท่านยังมีที่ดินไว้ทำกินเหลืออยู่อีกด้วย โดยหากท่านใดสนใจจำนองที่ดิน สามารถติดตามรายละเอียดจากบทความนี้ได้ ซึ่งเราได้รวบรวมการจำนองโฉนด, สินเชื่อที่ดิน, และที่ดินแลกเงิน มาอธิบายรายละเอียดให้ทุกท่านได้ทราบมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การจำนองที่ดินได้รับสิทธิประโยชน์และความคุ้มค่ามากที่สุด เพราะเชื่อว่าหลายท่านคงยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการจํานองที่ดินเปล่าธนาคารไหนดี หรือจะเลือกใช้บริการโฉนดแลกเงิน ซึ่งบทความนี้มีคำตอบให้กับทุกท่านแล้ว

จำนองที่ดิน รู้จักรายละเอียดก่อนเลือกใช้บริการ

สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเข้าไม่ถึงสภาพคล่องจากสถาบันการเงิน เพราะเป็นผู้รายได้น้อย หรือมีอาชีพอิสระนั้น ส่วนหนึ่งที่ธนาคารจะใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ คือ โฉนดที่ดิน อย่างไรก็ตาม การใช้โฉนดที่ดินดังกล่าว มีข้อเสียคือ วงเงินที่ท่านได้รับการอนุมัติจะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย หรือได้ต่ำกว่าการเลือกใช้บริการจำนองที่ดิน ฉะนั้น หากท่านใดต้องการวงเงินสินเชื่อก้อนใหญ่ เพื่อนำไปตั้งหลัก หรือเสริมสร้างอาชีพนั้น การเลือกใช้บริการจำนองโฉนดก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ท่านได้รับประโยชน์สูงสุด 

สำหรับการจำนองที่ดินนั้น บทความนี้จะมาอธิบายรายละเอียดให้ทุกท่านได้ทราบกันมากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่าหลายท่านอาจจะยังไม่มีความเข้าใจในเรื่องดังกล่าวเท่าไหร่นัด โดยการจำนองคือ การนำทรัพย์สิน หรือโฉนดที่ดินของท่าน ไปฝากไว้กับธนาคาร หรือผู้ที่ให้บริการรับจำนอง เพื่อแลกเป็นสินเชื่อเงินก้อน โดยเมื่อได้รับวงเงินข้างต้นแล้ว ท่านจะต้องผ่อนชำระตามที่ผู้ให้บริการรับจำนองกำหนด โดยหากท่านสามารถชำระได้ตามเงื่อนไขแล้ว หลังจากสิ้นสุดการทำสัญญา ท่านก็จะได้รับสินทรัพย์นั้นคืนมา ซึ่งการจำนองที่ดินก็เป็นรูปแบบเช่นเดียวกัน ซึ่งการจำนองโฉนด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ช่วยทำให้ท่านเข้าถึงสินเชื่อเงินก้อนได้ง่ายขึ้น

จำนองที่ดิน เปรียบเทียบความแตกต่างกับที่ดินแลกเงิน

ทั้งนี้ ข้อดีของการเลือกใช้บริการจำนองที่ดิน คือ ท่านจะได้รับสินเชื่อเงินก้อนในวงเงินที่สูง กว่าประเมินราคาตามการประเมินราคาที่ดินของรัฐ ขณะที่การคำนวณอัตราดอกเบี้ยจากการจำนองที่ดินก็อยู่ในอัตราที่ต่ำ เมื่อเทียบกับการนำโฉนดที่ดิไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันสินเชื่อ ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการจำนองโฉนด และการเลือกใช้บริการที่ดินแลกเงินนั้น ก็มีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกัน โดยการจำนองที่ดิน แน่นอนว่าท่านจะได้รับสินเชื่อเงินก้อนตามการประเมินราคาที่ดิน ซึ่งอาจจะสูงกว่าราคาประเมินทั่วไปเล็กน้อย หากใช้บริการจำนองที่ดินธนาคาร โดยจำนองที่ดินทำให้ท่านยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่ และสามารถผ่อนชำระเงินได้ เพื่อแลกสัญญาจำนองที่ดินที่ตกลงกันไว้ ขณะที่การเลือกใช้บริการโฉนดแลกเงิน หรือที่ดินแลกเงิน จะแตกต่างจากการจำนองที่ดิน คือ ที่ดินแลกเงินท่านจะได้รับวงเงิน ตามการประเมินราคาที่ดินของหน่วยงานรัฐ และเมื่อได้รับเงินก้อนแล้ว ท่านไม่ต้องผ่อนชำระสินเชื่อใดๆ เพราะท่านได้นำโฉนดที่ดินไปขายแลกเงินให้กับแบงก์แล้ว โดยการใช้ที่ดินแลกเงินนั้น ทำให้ท่านมีเงินก้อนจริง แต่ทรัพย์สินของท่านก็จะลดลง ซึ่งหากใครมีที่ดินจำนวนมาก และไม่ได้เดือดร้อนจากการใช้โฉนดแลกเงินก็สามารถเลือกวิธีการนี้ได้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีโฉนดที่ดินน้อย การเลือกจำนองที่ดินจะเป็นช่องทางที่เหมาะสมกว่า เพราะการจำนองที่ทำให้ท่านยังมีทรัพย์สินเหลืออยู่

จำนองที่ดิน สามารถเลือกใช้บริการที่ไหนคุ้มค่าที่สุด

สำหรับการเลือกใช้บริการจำนองโฉนด ปัจจุบันมีผู้ให้บริการหลายรายที่รับจำนองที่ดิน ได้แก่ จำนองที่ดินธนาคาร, จำนองที่ดินน็อนแบงก์ และจํานองที่ดินกับกรมที่ดิน เป็นต้น โดยเราสามารถสรุปการจำนองโฉนดจากผู้ให้บริการต่างๆ ไว้ ดังนี้ 1. การจำนองที่ดินกับธนาคารนั้น ส่วนนี้ธนาคารจะค่อยข้างมีความเข้มงวดในเรื่องโฉนดที่ดิน โดยหากเป็นที่ดินทำเลไม่ดี หรือเป็นโฉนดที่ดินตาบอด ไม่มีทางเข้าออก ท่านมีความเสี่ยงที่จะโดนปฏิเสธจำนองที่ดิน ฉะนั้น หากเลือกใช้บริการจำนองที่ดินธนาคาร สำหรับโฉนดที่ดินที่จะได้รับสินเชื่อเงินก้อนมากที่สุด คือ การเลือกใช้บริการรับจำนองบ้านพร้อมที่ดิน เพราะหากมีสินทรัพย์อยู่บนโฉนดที่ดินด้วย จะทำให้ท่านได้รับการประเมินราคาสูงกว่าการจำนองที่ดินเปล่า 

ทั้งนี้ หากถามว่าจํานองที่ดินเปล่าธนาคารไหนดีจึงจะได้รับความคุ้มค่า และวงเงินสูง ขอแนะนำให้เลือกใช้บริการจำนองที่ดินกับแบงก์กสิกร และไทยพาณิชย์ ซึ่งในปัจจุบันนี้ ทั้ง 2 แบงก์ดังกล่าวได้รับความนิยมเรื่องบริการจำนองที่ดินธนาคารเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้มีการผ่อนปรนเงื่อนไขให้กับลูกค้า และให้การคำนวณประเมินราคาที่ดินสูงกว่าการจำนองที่ดินกับธนาคารอื่นๆ 

ส่วนการ 2. จำนองโฉนดกับน็อนแบงก์นั้น ส่วนนี้เป็นผู้ให้บริการที่ผ่อนปรนที่สุดสำหรับการรับจำนองที่ดิน เพราะส่วนใหญ่จะเน้นผ่อนปรนเงื่อนไขโฉนดที่ดินให้กับลูกค้า แต่ในเรื่องการประเมินราคาของการจำนองที่ดินอาจจะได้รับวงเงินที่ต่ำ เพราะจำนองโฉนดกับน็อนแบงก์คิดตามราคาประเมินจริงจากภาครัฐ และ 3.จํานองที่ดินกับกรมที่ดิน แน่นอนว่า หากเลือกใช้บริการจำนองที่ดินกับกรมที่ดิน ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ แม้เป็นที่ดินตาบอด หรือที่ดินทำเลไม่ดี กรมที่ดินก็รับจำนองโฉนด แต่ในเรื่องวงเงินที่ท่านจะได้รับจะอยู่ระดับต่ำกว่าประเมินราคาอย่างน้อย 1-2%