บัตรเดบิตกรุงเทพ
อายุผู้สมัคร:
15 ปีขึ้นไป
เช็คประเภทบัตรเดบิตที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่ายพร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้มผ่านผลิตภัณฑ์บัตรเดบิต
สมัครบัตรเดบิตกรุงเทพรับบัตรพร้อมเริ่มต้นใช้งานได้ทันที มั่นใจทุกการใช้จ่ายเพราะมีความปลอดภัยสูง
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า:
100 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปี:
ไม่กำหนด
บัตรเดบิตกรุงไทย
อายุผู้สมัคร:
15 ปีขึ้นไป
สมัครบัตรเดบิตกรุงไทยชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า 100 บาท ก็สามารถใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตได้ง่าย ๆ
เลือกสมัครบัตรเดบิตที่ตรงตามไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายรับสิทธิประโยชน์และส่วนลดต่างๆ จากร้านค้าชั้นนำ
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า:
100 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปี:
ไม่กำหนด
บัตรเดบิตไทยพาณิชย์
อายุผู้สมัคร:
15 ปีขึ้นไป
รับสิทธิประโยชน์สุดคุ้มเมื่อทำการสมัครบัตรเดบิตไทยพาณิชย์ ช้อปสะดวกไม่ต้องพกพาเงินสดให้ยุ่งยาก
ช้อปออนไลน์ผ่านบัตรเดบิตได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยวงเงินสูงสุด 500,000 บาทต่อวัน
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า:
100 บาท
ค่าธรรมเนียมรายปี:
ไม่กำหนด

Text

Content


บัตร atm (บัตรเดบิต)หรือบัตรธนาคารคืออะไร?

บัตร atm (บัตรเดบิต) หรือบัตรธนาคารคืออะไร? 

บัตร atm คือบัตรที่ได้รับเมื่อเราทำการเปิดบัญชีกับธนาคาร โดยเป็นบัตรที่ใช้กดเงินจากตู้ atm ตามจำนวนเงินในบัญชีที่ฝากกับธนาคารไว้ และบัตร atm (บัตรเดบิต) คือบัตรที่ได้รับเมื่อเราทำการเปิดบัญชีกับธนาคารเช่นเดียวกับการทำบัตร atm เพื่อใช้ทำรายการกดเงินจากตู้ atm เช่น การถอนเงิน กดเงินสด โอนเงิน สอบถามยอด แต่บัตร atm (บัตรเดบิต) ไม่เหมือนกับบัตร atm คือ บัตร atm (บัตรเดบิต) สามารถใช้รูดซื้อ​สินค้าและบริการ รวมถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยจะเป็นการหักเงินออกจากบัญชีเงินฝากทันที โดยเงินที่ใช้รูดซื้อสินค้าและบริการจะเป็นวงเงินที่เราฝากไว้กับธนาคารนั่นเองโดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้งาน

บัตร atm (บัตรเดบิต) จะมีสัญลักษณ์ที่ออกบัตรร่วมกับธนาคาร เช่น Visa Master Card และ Union Pay เป็นต้น และการซื้อสินค้าออนไลน์ เราสามารถทำได้โดยการบอกหมายเลขบัตรเดบิต 16 หลัก รหัส CVV หมายเลข 3 หลัก ด้านหลังของบัตรเดบิต วันหมดอายุของบัตร และรหัสผ่านใช้ครั้งเดียว หรือ OTP ที่ได้รับทาง SMS 

ประโยชน์ของบัตร atm (บัตรเดบิต)

บัตร atm (บัตรเดบิต) สามารถทำบัตร atm ได้ฟรี ไม่เสียค่าทำบัตร atm แต่บัตร atm (บัตรเดบิต) จะมีค่าธรรมเนียมรักษาบัตรในแต่ละปี บัตร atm (บัตรเดบิต)สามารถใช้กดเงินสดโดยไม่มีค่าธรรมเนียม และเมื่อกดเงินจากตู้ atm จากธนาคารภายในจังหวัดก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย 

อีกประโยชน์ของบัตร atm (บัตรเดบิต) คือ ผู้ถือบัตรไม่ต้องพกเงินสด ไม่ต้องเสี่ยงถูกขโมย การใช้งานสะดวก มีความรวดเร็วในการชำระเงิน ไม่ต้องเสียเวลา บัตร atm (บัตรเดบิต) ช่วยควบคุมการใช้จ่ายได้ดีกว่าการใช้งานบัตรเครดิต เพราะจะใช้วงเงินภายในบัตรเดบิตเท่านั้น นอกจากนี้บัตร atm (บัตรเดบิต) ยังมีสิทธิพิเศษและโปรโมชั่นมากมาย เช่น การโอนเงินโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ส่วนลดในการซื้อสินค้า รูดซื้อสินค้าตามวงเงินไม่เสียค่าธรรมเนียม และความคุ้มครองต่างๆ แต่สิทธิพิเศษและโปรโมชั่นของบัตร atm (บัตรเดบิต) ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรและเงื่อนไขการสมัครตั้งแต่แรก แต่บัตร atm (บัตรเดบิต) อาจจะมีค่าธรรมเนียมรายปี (รักษาบัตร) แพงกว่าบัตรเดบิตหรือบัตรเอทีเอ็มทั่วไป ผู้สมัครต้องเลือกการใช้งานบัตร atm (บัตรเดบิต)ให้เหมาะสมก่อนจะ​​​สมัคร

บัตร atm (บัตรเดบิต) เหมาะกับใคร 

บัตร atm (บัตรเดบิต) มีทั้งประโยชน์และสิทธิพิเศษจากการใช้งานที่หลากหลาย ดังนั้นบัตร atm (บัตรเดบิต) จึงเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการความสะดวกในการกดเงินสด การใช้จ่ายรูดซื้อสินค้า และการซื้อของออนไลน์ตามวงเงินในบัญชี แต่การใช้งานบัตรเดบิตก็มีข้อควรระวังด้วย คือ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าควรเลือกใช้ประเภทบัตรเดบิตให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวเอง ไม่ควรกำหนดรหัส PIN ที่ง่ายเกินไป โดยไม่ใช้หมายเลขโทรศัพท์ บ้านเลขที่ วันเกิด และไม่ควรเก็บรหัสไว้รวมกับบัตร และไม่ควรเปิดเผยรายละเอียดของบัตร atm (บัตรเดบิต) กับคนอื่น

นอกจากนี้8;iตรวจสอบจำนวนเงินให้ถูกต้องก่อนจะใช้งานบัตร ไม่ว่าจะกดเงินสด รูดซื้อสินค้า และการซื้อสินค้าออนไลน์ และควรตรวจสอบยอดเงินในบัตร atm (บัตรเดบิต) บ่อยๆ เลือกร้านค้าออนไลน์ที่เชื่อถือได้ ถ้าบัตรหายควรแจ้งธนาคารทันที และสามารถทำบัตร atm ใหม่ได้ตามเงื่อนไขการสมัครของธนาคารนั้นๆ 

เปิดเงื่อนไขการสมัครและคุณสมบัติของผู้สมัครบัตร atm (บัตรเดบิต)

เมื่อเปิดบัญชี หรือมีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร เราก็มักจะได้ทำบัตร atm ใหม่สำหรับเอาไว้ใช้งาน ซื้อเงื่อนไขการสมัครและคุณสมบัติของผู้สมัครบัตร atm (บัตรเดบิต) ก็เปิดโอกาสให้กับทุกคน ทุกอาชีพได้เป็นเจ้าของบัตร atm (บัตรเดบิต) ได้ง่ายๆ โดยคุณสมบัติของผู้สมัครบัตร atm (บัตรเดบิต) คือ 

  • บุคคลธรรมดาทั่วไปที่มีบัญชีเงินฝาก หรือทำการเปิดบัญชี
  • มีอายุตั้งแต่ 12 – 70 ปี 
  • มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์และบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน 
  • มีบัตรประชาชนตัวจริง 

การสมัครบัตรเดบิตจะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้า (บัตร atm ใหม่) และค่าธรรมเนียมรายปี ซึ่งค่าธรรมเนียมต่างๆ ก็อยู่ที่เงื่อนไขการสมัครของธนาคารที่เราจะผู้สมัครบัตร atm (บัตรเดบิต) ดังนั้น ผู้สมัครบัตร atm (บัตรเดบิต) ควรศึกษาค่าทำบัตร atm การกดเงินจากตู้ atm และค่าธรรมเนียมต่างๆ จากการใช้งานบัตร atm (บัตรเดบิต)

บัตร atm (บัตรเดบิต) กับการใช้งานที่มากกว่าแค่ถอนเงิน

บัตร atm (บัตรเดบิต) สามารถบัตร atm ออนไลน์ได้ผ่านทางแอพพลิเคชั่นของธนาคาร ซึ่งเมื่อได้รับบัตร atm (บัตรเดบิต) แล้ว ผู้ถือบัตรสามารถใช้งานได้ทันที เช่น การกดเงินสด การรูดซื้อสินค้า เป็นต้น ทำให้การทำบัตร atm ทำให้ผู้ถือบัตรมีเงินสดติดตัวตลอดเวลา ไม่ต้องกลัวเงินหาย แต่บัตร atm (บัตรเดบิต) ก็มีการใช้งานที่มากกว่าแค่ถอนเงิน คือ 

  • บัตร atm (บัตรเดบิต) ประเภท VISA Master Card หรือ Union Pay สามารถช่วยให้ผู้ถือบัตรเดบิตซื้อสินค้าและบริการได้ที่ต่างประเทศ ไม่ต้องพกเงินสดอีกต่อไป ไม่มีค่าธรรมเนียมในการรูดซื้อสินค้า
  • บัตร atm (บัตรเดบิต) มีความปลอดภัยสูง เพราะใช้วงเงินจากเงินในบัญชี ผู้ถือบัตรไม่สามารถใช้บัตร atm (บัตรเดบิตเกินจำนวนที่มีในบัญชีได้ ช่วยควบคุมเรื่องการใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลว่าจะมีหนี้สินหรือการผ่อนชำระ  
  • ประกันที่มาพร้อมกับการทำบัตร atm (บัตรเดบิต)