ประวัติความเป็นมาของธนาคาร uob และข้อมูลด้านการบริการอื่นๆ ในปี 2567 / 2024
หนึ่งในธนาคารที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีน่าจะรวมถึงธนาคาร uob ด้วยซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่ธนาคารลำดับต้นๆ ของประเทศไทย แต่ก็ถือว่า uob ธนาคารมีความน่าสนใจในหลายๆ ด้านและมีชื่อเสียงมากพอที่ทำให้หลายคนอยากจะทำธุรกรรมด้วย เนื่องจากไม่เคยได้ยินเรื่องเสียหายทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร uob เป็นข่าวออกมานับตั้งแต่มีการก่อตั้งธนาคารแห่งนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเชื่อว่าหลายท่านก็คงอยากทราบประวัติความเป็นมาของธนาคารแห่งนี้ก่อนที่จะทำการตัดสินใจได้ว่าจะทำธุรกรรมต่างๆ ดีหรือไม่ เพราะถึงธนาคาร uob จะมีชื่อเสียงอันดี แต่การทราบประวัติเพิ่มเติมก็จะช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่คนที่อยากจะใช้บริการอยู่ดี โดยธนาคาร uob มีชื่อเต็มๆ ว่าธนาคารยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งสำหรับท่านที่สงสัยว่าธนาคาร uob คือธนาคารอะไร ก็ต้องตอบว่าเกิดจากการควบรวมกิจการของสองธนาคาร ประกอบด้วยธนาคารยูโอบีรัตนโกสินและธนาคารเอเชีย ซึ่งการควบรวมดังกล่าวจนกลายมาเป็นธนาคาร uob เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ.2548 หรือเมื่อ 19 ปีก่อนนั่นเอง สำหรับท่านที่สงสัยว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคาร uob คือใคร คำตอบก็คือกลุ่มทุนบริษัทแม่จากต่างประเทศ นำโดยกลุ่มยูโอบีสิงคโปร์หรือ United Oversea Bank ที่มีสาขาใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์นั่นเอง ซึ่งเป็นบริษัทที่คอยกำหนดทิศทางและนโยบายในการบริหารงานต่างๆ ของธนาคาร uob ที่อยู่ในประเทศไทยเป็นหลัก เชื่อว่าหลังจากทราบข้อมูลต่างๆ รวมถึงทราบว่าธนาคารยูโอบีชื่อเต็มคืออะไรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ธนาคารแห่งนี้ก็คงมีความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นสำหรับหลายๆ ท่าน และการตัดสินใจที่จะทำธุรกรรมกับทางธนาคาร uob ก็น่าจะมีระดับความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ธนาคาร uob สาขาในไทยและข้อมูลสาขาสำนักงานใหญ่ของธนาคาร uob
หากพิจารณาความน่าเชื่อถือที่บริษัทแม่มีในฐานะบริษัทระดับโลก ก็คงทำให้หลายคนน่าจะรู้สึกวางใจในธนาคาร uob มากขึ้น ส่วนท่านที่สงสัยว่าธนาคาร uob สาขาที่มีในประเทศไทยมีทั้งหมดกี่สาขา คำตอบก็คือ ณ ปัจจุบันนี้มีทั้งหมดถึง 150 สาขาครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศไทย และทำให้ธนาคาร uob เป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีกิจการในประเทศไทยใหญ่เป็นอันดับที่ 7 โดยมีสินทรัพย์รวมทั้งหมด 725,407 ล้านบาท โดยธนาคาร uob สำนักงานใหญ่ของประเทศไทยตั้งของธนาคาร uob สาขานี้อยู่ที่ยูโอบีพลาซ่า ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร ส่วนท่านที่ต้องการจะเดินทางไปยังสาขาสำนักงานใหญ่ของธนาคาร uob ก็จะพบว่าการเดินทางนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างยากลำบากแต่อย่างใด หากท่านประสงค์ที่จะเดินทางไปที่ธนาคาร uob ณ สาขาดังกล่าวด้วยรถเมล์ ท่านก็สามารถนั่งรถเมล์สาย 25 สาย 2 หรือสาย 511 ก็ได้ ส่วนท่านที่อยากจะเดินทางไปที่ธนาคาร uob ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ด้วยรถไฟฟ้า ท่านก็สามารถเดินทางไปธนาคาร uob ณ สาขานี้ได้ด้วยบริการรถไฟฟ้า bts โดยไปลงที่สถานีพร้อมพงษ์นั่นเอง ซึ่งสาขาที่เป็นสำนักงานใหญ่นี่ถือว่าเป็นหนึ่งในความภูมิใจของทางธนาคาร uob เพราะมีนวัตกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ smart queue ที่ไม่ว่าท่านจะรอเข้าคิวทำธุรกรรมกับธนาคารยูโอบีที่อาคารสำนักงานใหญ่ของธนาคาร uob ตรงไหนก็ตาม ก็จะมี sms แจ้งเตือนให้ท่านทราบโดยทันทีเมื่อถึงคิวของท่านแล้ว นอกจากนั้นก็จะมีในส่วนของดิจิตอลบาร์ที่มีกาแฟอร่อยๆ บริการให้ลูกค้าของธนาคาร uob แบบรวดเร็วทันใจอีกด้วย
การเปิดบัญชี uob และการทำธุรกรรมรูปแบบต่างๆ กับธนาคาร uob
หลังจากที่ทราบแล้วว่าจะเดินทางไปที่ธนาคาร uob สำนักงานใหญ่ได้อย่างไร และหลายๆ ท่านที่เคยได้ยินแต่ชื่อย่อของทางธนาคารก็ได้ทราบไปแล้วว่าธนาคารยูโอบีชื่อเต็มคืออะไร ก็มาถึงในส่วนของข้อมูลที่หลายคนจำเป็นจะต้องทราบเพื่อที่จะสามารถทำการเปิดบัญชี uob ได้ โดยหากท่านต้องการจะเปิดแบบบัญชีออมทรัพย์ ท่านก็สามารถทำได้ง่ายมากๆ เพียงแค่มีบัตรประจำตัวประชาชน ที่ก่อนไปทำธุรกรรมกับธนาคาร uob บัตรของท่านยังไม่หมดอายุและยังคงเห็นข้อมูลในหน้าบัตรชัดเจนไม่ลบเลือนแต่อย่างใด โดยเงินที่จะต้องใช้ในการเปิดบัญชีกับทาง uob ธนาคารจะต้องไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท ส่วนเรื่องของดอกเบี้ยเงินฝากและเงื่อนไขอื่นๆ ของทางธนาคาร uob ก็จะเป็นไปตามประกาศของทางธนาคารเป็นหลัก โดยเงินฝากที่ท่านฝากกับธนาคาร uob จะได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้ในกฎหมาย และหากบัญชีที่ท่านมาเปิดกับธนาคาร uob ไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นระยะเวลา 12 เดือนติดต่อกัน และยอดเงินคงเหลือ ณ สิ้นเดือนนั้นต่ำกว่า 5,000 บาท ทางธนาคารยูโอบีจะทำการคิดค่าธรรมเนียมเพื่อรักษาบัญชีของท่าน 100 บาทต่อเดือนต่อหนึ่งบัญชี ส่วนท่านที่อาจจะสงสัยว่ากับธนาคาร uob จะมีการเปิดบัญชีรูปแบบอื่นๆ อีกหรือไม่ คำตอบก็คือท่านสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ uob ได้ โดยดอกเบี้ยที่ท่านจะได้จากการเปิดบัญชีแบบออนไลน์ถือว่าดีทีเดียวคือสูงสุดอยู่ที่ 1.25 เปอร์เซ็นต์ต่อปีแถมได้ดอกเบี้ยจากธนาคาร uob เป็นแบบรายเดือนอีกด้วย นอกจากนั้นการทำธุรกรรมต่างๆ ก็ไม่ต้องไปถึงสาขาของธนาคารแต่จะทำที่ไหนก็ได้
บริการสินเชื่อ uob หนึ่งในธุรกรรมที่น่าสนใจของธนาคาร uob
สำหรับท่านที่ต้องการขอสินเชื่อ ทางธนาคาร uob ก็มีบริการดังกล่าวให้ท่านได้ทำกับทางธนาคารเช่นกัน โดยท่านที่สนใจจะขอสินเชื่อส่วนบุคคล uob กับทางธนาคาร ท่านจะต้องมีสัญชาติไทยและมีอายุเกินกว่า 20 ปีขึ้นไป โดยข้อดีของการกู้เงิน uob กับทางธนาคารแห่งนี้ก็คือท่านไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ในการค้ำประกันแต่อย่างใด แถมวงเงินสูงสุดที่จะกู้ได้อยู่ที่ไม่เกิน 2 ล้านบาทหรือ 5 เท่าของรายได้ของท่านนั่นเองซึ่งธนาคาร uob มองว่าเป็นวงเงินที่ค่อนข้างเหมาะสม ข้อกำหนดสำคัญอย่างหนึ่งที่ท่านซึ่งอยากจะขอสินเชื่อ uob ควรทราบก็คือรายได้ต่อเดือนของท่านจะต้องมากกว่า 15,000 บาทขึ้นไปถึงจะกู้ได้ และอายุงานของคนที่อยากจะกู้เงิน uob จะต้องมากกว่า 4 เดือนขึ้นไป ส่วนคนที่เป็นเจ้าของกิจการจะต้องดำเนินกิจการเดิมมาไม่น้อยกว่า 3 ปีถึงจะขอสินเชื่อส่วนบุคคล uob ได้ ส่วนเอกสารที่จะต้องใช้ในการสมัครจะต้องเป็นไปตามที่ทางธนาคาร uob กำหนดทั้งเอกสารยืนยันตัวตนและแสดงรายได้ของท่านเอง
ช่องทางติดต่อกับธนาคาร uob และการหารีวิวของธนาคารยูโอบี
สำหรับท่านที่ชอบความรวดเร็วทันใจ ท่านก็ควรจะทราบด้วยว่าธนาคารแห่งนี้มีแอพ uob คอยให้บริการท่านด้วย ซึ่งท่านที่ใช้โทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะเป็นระบบแอนดรอยด์หรือไอโอเอส ก็สามารถติดตั้งแอพนี้ของทางธนาคาร uob ได้หมด ส่วนท่านที่อยากจะติดต่อพนักงานของทางธนาคาร uob โดยตรงเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนจะทำเช่นนั้นท่านอาจจะเข้าไปในเว็บไซต์ของทางธนาคาร uob เพื่อค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่ตั้งของสาขาที่ใกล้บ้านท่านที่สุดหรือตู้เอทีเอ็มของทางธนาคาร uob อยู่ตรงไหนบ้าง ท่านก็สามารถหาได้จากเว็บไซต์ดังกล่าว หรือหากไม่สามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้ ก็อาจจะติดต่อกับทาง uob call center โทรไปได้ที่เบอร์ 02 285 1555 ซึ่งสำหรับการโทรไปนั้น uob โทรไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ถ้าท่านอยากทราบว่าธนาคาร uob ดีไหม? ก็อาจจะไม่ควรที่จะถามพนักงานซึ่งจะต้องตอบว่าดีแน่ แต่ควรค้นหาข้อมูลดังกล่าวเกี่ยวกับรีวิวของธนาคาร uob ในโลกออนไลน์มากกว่า